ทรายแมวแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ

 1. แบบจับตัวเป็นก้อน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด
         1.1 แบบที่ทำจากวัสดุจำพวกเยื่อไม้ ใบไม้ ทรายแมวประเภทนี้สามารถย่อยสลายได้ง่าย บางยี่ห้อจึงมีการโฆษณาสรรพคุณว่าสามารถตักทิ้งลงชักโครกได้เลย มีน้ำหนักเบา ดูดซับความชื้นได้ดีมากๆ แต่มีข้อจำกัดคือ ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแบบอื่น และหาซื้อได้ยากพอสมควร
         1.2 แบบที่ทำจากสินแร่เบนโทไนท์ ซึ่งจะมี 2 เกรด โดยแต่ละเกรดจะมีจุดเด่นที่ต่างกันในเรื่องของขนาดเม็ดทราย น้ำหนักของทราย ความแข็งของเม็ดทราย และปัญหาเรื่องฝุ่นผงของทราย โดยทรายที่ทำจากสินแร่เบนโทไนท์นี้จะมีความสามารถในการดูดซับความชื้นได้ดี เยี่ยม เก็บกลิ่นได้ดีพอสมควร หาซื้อได้ค่อนข้างง่าย มีราคาไม่สูงมาก ทรายแมว ketty love เป็นทรายที่มีการดูดซับได้ดี เก็บกลิ่นก็ดี และมีฝุ่นค่อนข้างน้อย
 2. ทรายแมวแบบไม่จับตัวเป็นก้อน แบ่งเป็น 2 ชนิด
           2.1 แบบที่ทำจากสินแร่ ทรายประเภทนี้จะถูกแต่งเติมให้มีความสามารถในการดูดซับกลิ่นได้ดีพอสมควร หาซื้อได้ง่าย มีราคาถูก แต่มีข้อจำกัดคือ ย่อยสลายได้ยาก ไม่จับตัวเป็นก้อนเมื่อเปียกชื้น จึงอาจทำความสะอาดได้ยาก มีอายุการใช้งานที่จำกัด คือเมื่อใช้ไประยะหนึ่งอาจต้องเปลี่ยนทั้งกระบะ
           2.2 แบบที่ทำจากวัสดุคล้ายสารดูดซับความชื้น หรือเรียกว่า ทรายคริสตัล ลักษณะเป็นเม็ดใส ดูดซับความชื้นและกลิ่นได้ดีเยี่ยม หาซื้อง่ายพอสมควร แต่มีข้อจำกัดคือ น้ำหนักเบา เวลาแมวกลบจึงกระเด็นออกนอกกระบะได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับชนิดอื่น ลักษณะเป็นเม็ดกลมไม่เกาะกลุ่มกัน เวลาแมวใช้เท้าจึงมักจมลงในทราย ซึ่งทำให้แมวที่ไม่เคยใช้ทรายประเภทนี้อาจกลัวและไม่กล้าใช้ในช่วงแรก (แต่สามารถฝึกให้คุ้นเคยได้ในระยะเวลาสั้นๆ) ...หากใส่ทรายน้อยไป จะเก็บกลิ่นได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะฉี่แมวจะซึมลงด้านล่าง ถ้าทรายน้อยก็จะซึมลงไม่ลึก จึงยังคงมีกลิ่นหลงเหลืออยู่ที่ผิวทรายด้านบน.

การเปลี่ยนทรายนั้น หากเป็นชนิดจับตัวเป็นก้อนแบบเยื่อไม้ หรือแบบ ทราย ketty love  ก็ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งกระบะ แต่จำเป็นต้องคอยเติมทรายให้หนาประมาณ 5 นิ้วขึ้นไป จะทำให้จับตัวเป็นก้อนได้ดี หากใส่ทรายน้อยไป ทรายที่เปียกชื้นจะติดที่ก้นกระบะทำให้เก็บทำความสะอาดยาก และเปลื้องทรายมากขึ้น และต้องเก็บออกแล้วอยู่เสมอ ซึ่งต่างกับแบบที่ไม่จับตัวเป็นก้อน โดยแบบหลังนี้เราไม่จำเป็นต้องตักทรายทิ้ง แต่ทรายประเภทนี้มีระยะเวลาการใช้จำกัด คือ เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะไม่สามารถเก็บกลิ่นได้ และจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งกระบะ

ปริมาณของทรายในกระบะ (ทั้ง 2 ประเภท) ควรใส่ในระดับพอสมควรที่ทำให้แมวสามารถกลบได้ แต่มีข้อแนะนำว่า  การใส่ทรายปริมาณมากๆ ก็อาจทำให้ทรายกระเด็นเลอะเทอะออกนอกกระบะได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าถามว่าควรใส่เท่าไหร่จึงเหมาะสม ก็ต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแมวแต่ละตัว แมวบางตัวอาจไม่ชอบกลบ  แต่บางตัวจะกลบอย่างดุเดือดมาก เราก็ต้องใส่ในปริมาณจำกัดและ หากะบะทรายให้ลึกพอสมควร บางที่ใช้ลังพลาสติกก็แล้วแต่ว่าใครถนัดใช้แบบไหน  ต้องสังเกตเองค่ะ